Notre dame…ในความทรงจำ

เราสองคนแม่ลูกได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2562 วันแรกที่ไปถึงก็พากันตระเวนไปตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในตัวเมืองปารีสด้วยรถ Smart City Sightseeing bus

ภาพวิหารที่ถ่ายไว้จากบนรถ Sightseeing
ในวันก่อนเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้

วันที่สองก็ไปตามจุดที่เป็นเป้าหมายที่อยากไปคือ ห้องสมุดในปารีส ร้านขายหนังสือ การวางแผนเดินทางครั้งนี้มีการผิดพลาดก่อนเข้าที่พัก เพราะสถานีรถไฟฟ้าปิดซ่อมกะทันหันทำให้วันแรกที่มาถึงทุลักทุเลพอควรเพราะหลงทางไปไกลหลานสถานี เสียเวลากับการต้องย้อนกลับมาลงสถานีที่ใกล้ที่สุดแล้วศึกษาเส้นทางรถบัส รถแทรม ที่ไปจอดใกล้ที่พักที่สุด แต่ในความผิดพลาดก็มีความโชคดีที่เราได้เห็นร้านรวงข้างทางและรู้พิกัดของห้องสมุดและเห็นร้านหนังสือทั่วปารีส นั่นแสดงว่าหนังสือเล่มและวารสารยังคงพิมพ์จำหน่ายอย่างต่อเนื่องในมหานครแห่งนี้

วันที่สามวันที่ 14 เม.ย.62 การเดินทางไปตามจุดหมายยังคงดำเนินต่อไป วันนี้ตอนเช้าเราไปร้านหนังสือ ห้องสมุด พร้อมกับแวะชิมอาหารย่านที่ผู้คนไปจับจ่ายใช่สอยสินค้ายอดนิยม เราเที่ยวทั่วกรุงปารีสด้วย City Sightseeing Bus ต่อไปจนเย็น แล้วไปเข้าคิวจองตั๋วล่องแม่น้ำแซน ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของสองฝั่งแม่น้าที่สวยงามท่ามกลางนักท่องเที่ยวนานาชาติ มีนักท่องเที่ยวเต็มลำเรือทั้งชั้นบนและชั้นล่างทุกเที่ยว ทุกลำ ทุกครั้งที่เรือลอดใต้สะพานก็มีเสียงหวีดร้องทักทายกันทั้งผู้คนบนเรือและที่นั่งเล่นอยู่ริมฝั่งเ คงเป็นการทักทายกันระหว่างผู้มาเยือนด้วยกันและเจ้าบ้าน เป็นบรรยากาศที่น่าสนุกสนานและตื่นเต้นเพราะบรรยากาศแบบนี้ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน แม้วันนี้อากาศจะหนาวเหน็บเพราะลมแรง แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ท้าทายอากาศหนาวเย็นด้วยการขึ้นไปนั่งรับลมที่ชั้นบนของเรือ และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพสองฝั่งแม่น้ำแซน

ภาพที่ถ่ายจากบนเรือล่องแม่น้ำแซน เห็นตัวยอดโดมและหลังคาที่ถูกครอบด้วยนั่งร้านระหว่างกระบวนการบูรณะ

เมื่อเรือผ่าน มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม (Cathédrale Notre-Dame de Paris) โบสถ์ที่สวยงามที่สุดในลักษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส ลูกสาวก็ชวนขึ้นไปยังชั้นบนของเรือเพื่อชี้ให้ดูสถานที่สำคัญและถ่ายภาพบนเรือ โดยภาพที่มีเฉพาะเกาะที่มีมหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม เป็นฉากหลัง เราถ่ายกันไว้ไม่กี่ภาพ โดยไม่รู้ว่าวันรุ่งขึ้นภาพที่เราถ่ายไว้จะเป็นภาพถ่าย มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม ก่อนเกิดเพลิงไหม้เพียง 1 วัน ลูกพูดว่าพรุ่งนี้จะพาไปชมภายในที่มีประติมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี (stained glass) ที่สวยงามที่สุด แม้ลูกจะเคยมาที่นี่กับเพื่อนๆถึง 2 ครั้งก็ยังอยากที่จะไปชมกับแม่อีกครั้ง ซึ่งสิ่งที่ตั้งใจไว้ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้เลย เพราะวันที่สี่ของการมาเยือนฝรั่งเศสเป็นวันที่ต้องจดจำว่าเป็นวันที่ตื่นเต้นและตกใจที่สุดในทริปนี้ คือวันที่ 15 เม.ย.62

ภาพวาดโมนาลิซ่าที่อยู่ไกลมาก
และมีผู้คุ้มกันอย่างแน่นหนา

ตอนสายๆ ของวันที่ 15 เม.ย.2019 เป็นวันที่เราไปนั่ง City Sightseeing Bus อีกสายหนึ่งแล้วไปลงใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองปารีส … เราใช้เวลาเกือบทั้งวันไปกับการผลงานศิลปะอันทรงคุณค่ามากกว่า 40,000 ชิ้น กว่าไปถึงผลงานที่เกี่ยวข้องกับรหัสลับดาวินซี (The Davinci Code) ได้ก็ลำบากมากเพราะวันนี้มีนักท่องเที่ยวทั่งโลกหนาแน่นจนบดบัง ภาพวาดโมนาลิซ่า ของศิลปิน “ลีโอนาโด ดาวินซี” กว่าจะฝ่าผู้คนเข้าไปยืนใกล้ๆ ต้องเขย่งเท้าชูกล้องจนสุดแขนก็ยังถูกบังอยู่ดี จึงได้ภาพดีที่สุดเท่าที่เห็น ไม่ง่ายเหมือนถ่ายกับ รูปปั้น Venus de Milo เลย
เราออกจาก Louvre Museum จวนใกล้ปิด ออกมาเดินเล่นตามย่านการค้ารอบๆ แล้วจึงไปเติมพลังที่ร้าน McDonald’s ในย่านนั้นจนเวลาประมาณเกือบ 19 นาฬิกา เวลาท้องถิ่นในฝรั่งเศส (พระอาทิตย์จะตกดินในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ) เรามุ่งหน้าไปต่อที่ มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม เพื่อเข้าชมภายใน แค่ขณะที่ยืนรอรถบัสที่จะผ่านหน้ามหาวิหาร ก็เห็นควันพวยพุ่งอยู่บริเวณที่เราจะไปนั้น ลูกถ่ายภาพควันที่ก่อตัวพวยพุ่งนั้นไว้ แล้วเดินขึ้นรถบัสเพื่อไปต่อ ลูกพูดว่า….”แถวที่ไปไหม้นั่นอยู่ใกล้นอร์ทเทอร์-ดาม เลยนะแม่” รถบัสแล่นไปได้ระยะหนึ่งก็จอดสนิทนิ่ง ใกล้ๆสะพานที่มีผู้คนยืนออกันอยู่เต็มทุกสะพาน เสียงรถดับเพลิงหลายสิบคัน แซงรถบัสที่จอดให้ทาง เสียงและแสงไฟกระพริบจากรถดับเพลิง ทำให้รู้สึกตื่นกลัวไม่น้อยแม้จะไม่มีเสียงเอะอะโวยวายของชาวฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวแถวนั้นเลย ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่กล้าฝ่าผู้คนไปถ่ายภาพใกล้ๆได้ เพราะไม่แน่ใจว่ามีการก่อการร้ายด้วยหรือไม่ ได้แต่นั่งมองเพลิงไหม้อยู่บนรถเป็นเวลานาน กว่าจะกลับถึงโรงแรมได้ก็เลยเที่ยงคืน ยังตื่นเต้นไม่หาย กลับมานั่งดูการดับไฟและการรายงานข่างทางโทรทัศน์ต่อ แล้วบันทึกภาพจากโทรทัศน์ที่ยังคงถ่ายทอดสดจากที่เกิดเหตุไปถึงเช้าวันที่ 16 เพลิงจึงสงบ รายงานข่าวยังคงมีต่อไปเกือบตลอดวัน การดับเพลิงครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงพนักงานดับเพลิงบาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นข่าวดังที่แพร่สะพัดไปทั่วโลก

ภาพควันที่พวกเราเข้าใจผิดว่าเป็นควัน
จากการประท้วงของม็อพในช่วงนั้น

เราตั้งใจจะออกไปดูสภาพหลังเกิดเหตุต่อไป การเขียนบันทึกนี้ไว้เพื่อบอกเล่าว่าเราสองคนแม่ลูกชาวไทยที่ได้เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย การได้ท่องเที่ยวไปหลายๆประเทศไม่เคยมีครั้งไหนที่มีเรื่องตื่นเต้นและการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเจ้าของประเทศเท่าครั้งนี้ แม้จะฟังภาษาฝรั่งเศสไม่รู้เรื่อง แต่สีหน้าและน้ำตาของชาวปารีสทางจอทีวี บ่งบอกถึงความรักและอาลัยในศาสนสถานได้อย่างชัดเจน ทำให้รู้สึกหดหู่และสะเทือนใจไปด้วย รู้สึกผิดหวังไม่น้อย ที่ถูกเลิกล้มความตั้งใจที่จะได้เข้าชมมหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม ที่มีอายุกว่า 850 ปี ทั้งที่พอมีเวลาในวันก่อนๆ ลูกสาวจึงเปลี่ยนแผนการเดินทางด้วยการทิ้งค่าเช่าที่ปารีสไปถึง 2 คืน เพื่อให้แม่ได้มีโอกาสไปชมมหาวิหารที่เหมือน มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม มากที่สุด ที่เมือง Strasbourg (เมืองใหญ่ติดชายแดนประเทศเยอรมนี) เราจะไปพักและชมบ้านเมืองที่นั่น สองคืน แล้วจะย้อนกลับมาปารีสอีกครั้ง เพื่อติดตามเรื่องราวของการสูญเสียครั้งสำคัญของชาวฝรั่ง และบันทึกภาพ มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม หลังเพลิงไหม้อีกครั้ง …ต่อจากเหตการณ์นี้จะมีการติดตามเกมที่มีฉาก มหาวิหารนอร์ทเทอร์-ดาม และนวนิยายชื่อดังของฝรั่งเศส The Hunchback of Notre Dame ของ วิคตอ ฮูโก ที่คนทั่งโลกได้อ่านกัน.

มาชมภาพประวัติศาสตร์จากเหตุการณ์ที่เราบันทึกได้ในวันนั้นกันนะคะ.

About ครูกิติยา 95 Articles
ครูส่งเสริมการอ่าน

1 Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*