หลังจากท่องไปตาม Landmark ที่เป็นสุดยอดของเกียวโตแล้ว ยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่เราสองคนแม่ลูกตั้งใจว่าต้องมาเยือนให้ได้ คือ พิพิธภัณฑ์มังงะ ลงจากรถไฟ เราเดินมาตามแผนที่มาเรื่อยๆ ก่อนถึงพิพิธภัณฑ์ก็ได้บันทึกภาพบ้านเมือง ผู้คนและวิถึความเป็นอยู่ละแวกพิพิธภัณฑ์ไว้ได้หลายภาพ ทั้งสถานศึกษาร้านรวงต่างๆ มีไม้ดอกไม้ประดับที่ดูแปลกและสวยงามอยู่ตามอาคารบ้านเรือนทุกระยะ ช่างเป็นการเดินชมเมืองเกียวโตอย่างเพลิดเพลินอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยมาจนถึงพิพิธภัณฑ์มังงะนานาชาติ เกียวโต (Kyoto International Manga Museum) ที่เปิดให้เข้าชมมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2006 ภายในพิพิธภัณฑ์มีหนังสือการ์ตูนมังงะมากกว่า 300,000 เล่ม ตั้งแต่มังงะเก่าแก่ไปจนถึงมังงะต่างประเทศ แม้ชั้นหนังสือในพิพิธภัณฑ์มังงะจะตั้งเรียงรายกันภายในพื้นที่แคบๆแต่ก็เป็นแหล่งรวมแฟนๆมังงะจากทุกสารทิศทั่วโลกที่มาเยือนโลกแห่งมังงะอันมีมนต์เสน่ห์ หลายล้านคน สมกับเป็น “พิพิธภัณฑ์มังงะนานาชาติ(Kyoto international manga museum )
พิพิธภัณฑ์มังงะ ตั้งอยู่ที่ Karasuma-Oike noboru, Nakagyo-ku, Kyoto 604-0846 มีตัวอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมในปี ค.ศ.2008 ทุกวันที่มีอากาศแจ่มใส บรรดาคนรักมังงหลายเชี้อชาติจะพาออกไปอ่านมังงะกลางแจ้ง ช่างเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เพราะทุกคนดูสบายๆและมีความสุข ( มีข้อมูลจากโลกออนไลน์ว่ามีผู้คนมาเยือนพิพิธภัณฑ์เกือบ 2 ล้านคนต่อปี และมากกว่า 10% เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ) เมื่อผ่านมาจากประตูรั้ว มีมุมกาแฟและร้านขายของที่ระลึกและเมื่อผ่านทางเข้าอาคาร ด่านแรกก็จะพบกับร้านค้าของพิพิธภัณฑ์ ที่มีสินค้าพิเศษหลายชนิดเกี่ยวกับมังงะ สินค้าหลากหลายซึ่งแต่ละชิ้นมีความน่ารัก สวยงาม ดูดีมีคุณภาพ ผู้มาเยอนแต่ละคนล้วนเพลิดเพลินไปกับการชมสินค้าและซี้อหาเพื่อเป็นของฝาก
บางช่วงผู้เข้าชมอาจโชคดีมากๆที่ได้ไปในช่วงที่มีการจัดนิทรรศการซึ่งพิพิธภัณฑ์มังงะนานาชาติ เกียวโต จะจัดนิทรรศการพิเศษปีละประมาณ 2-3 ครั้ง ภายในอาคาร 3 ชั้น มีทั้งโซนที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาตั้งแต่เริ่มต้นของการเกิดมังงะ บทบาทและอิทธิพลของมังงะในประเทศและระดับโลก รวมถึงยังเป็นห้องสมุดหนังสือการ์ตูนท้ังจากประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก การพัฒนาการเขียนการ์ตูนของนักเขียนมืออาชีพในอดีต เดินดูภาพไปในใจก็นึกชื่นชมความทุ่มเทของบรรพชนคนญี่ปุ่น ที่สร้างสรรค์จินตนาการให้เป็นสมบัติของลูกหลานไปชั่วกาลสมัย รากเหง้าศิลปะของศิลปินทุกคนกลายเป็นสินค้าส่งออกก่อให้เกิดรายได้ต่อเนื่องจากยุคสู่ยุตที่ไม่อาจประมาณค่าได้
มีอีกโซนที่น่าสนใจซึ่งจัดไว้ให้นักวาดการ์ตูนวาดรูปเหมือนได้ประลองฝีมือกันอีกด้วย.ทั้งเวอร์ชั่นอนิเมะและเวอร์ชั่นมาตรฐานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย น่าเสียดายที่เราสองแม่ลูกไม่มีเวลามากพอที่จะนั่งวาดอวดฝีมือกับเขา ตลอดระยะเวลา 20 กว่าปีที่ผ่านมา ครอบครัวเราใช้เวลาและใช้เงินเพื่อค้นสาระในการ์ตูนมังงะไปมากราวกับว่าจะอ่านเพื่อเตรียมตัวเดินทางตามหาแหล่งกำเนิดเลยทีเดียว การอ่านมานานมานานก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้ต้องดั้นด้นมาจนถึงที่นี่ ทำให้ได้มารู้มาเห็น มาคารวะสุดยอดนักเขียนการ์ตูนผู้ส่งต่อความสุขไปให้ผู้คนทั่วโลก พิพิธภัณฑ์มังงะนานาชาติ เกียวโต (Kyoto International Manga Museum) เก็บค่าบริการให้เข้าชม คนละ ประมาณ 800 เยน เปิดทำการ : AM10:00 – PM 18:00 หยุดทุกวนพุธและช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ การเดินทางมีสถานีที่ใกล้ที่สุด คือ Kyoto City Subway (Karasuma Oike Station) , รถบัสเกียวโต / ป้ายรถบัสเมืองเกียวโต(Karasuma Oike) หากเดินทาง จาก Kyoto City Subway (Karasuma Oike Station)ทางออกหมายเลข 2 แล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงต่อไปอีก 1 นาที
พิพิธภัณฑ์การ์ตูนของญี่ปุ่น มีทั้งข้อมูลข่าวสารความก้าวในอุตสาหกรรมการ์ตูนที่ทำให้ได้เรียนรู้ว่าญี่ปุ่นมีกิจกรรมเผยแผ่ความรู้ในเรื่องกระบวนการผลิต ผนวกกับเทคนิคต่างๆเรื่องการบริหารงานสื่อสิ่งพิมพ์ ทุกกระบวนการประสานกันอย่างลงตัวเพื่อการปลูกฝังให้ประชาชนได้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยผ่านสื่อสร้างสรรค์งานการ์ตูน คุณค่าของพิพิธภัณฑ์อยู่ที่การรวบรวมข้อมูลบุคคลในระดับตำนานในแวดวงมังงะที่สืบสานต่อกันมายาวนาน พิพิธภัณฑ์การ์ตูนของญี่ปุ่นคงไม่เพียงแต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมให้เยาวชนญี่ปุ่นเท่านั้นแต่จะเป็นของผู้คนทั่วโลกอีกด้วย
การได้มาพบเห็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่ปี 1945 จนถึงปี 2017 ทำให้นึกถึงหนังสือการ์ตูนที่เคยอ่านในวัยเด็ก เช่น หนังสือการ์ตูนตุ๊กตา เบบี้ หนูจ๋า มหาสนุก ขายหัวเราะ การ์ตูนลายเส้นของยอดชายนายศุขเล็ก การ์ตูนลายเส้นสวยๆของเตรียม ชาชุมพร ฯลฯ ทำให้ผู้เขียนรู้สึกแอบความฝันขึ้นในใจว่าหากมีพิพิธภัณฑ์การ์ตูนในเมืองไทย สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การ์ตูนนิสต์ทุกคนของเมืองไทย มีการระดมทุนสร้างพื้นที่ที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ได้สวยงามทัดเทียมต่างชาติ หากได้ร่วมมือกันทำในอย่างจริงจังเพื่อสร้างพลังและความฝันให้คนที่รักการ์ตูนแล้ว เชื่อว่าการ์ตูนนิสต์และคนที่เก็บสะสมการ์ตูนดีๆ จะไม่อยู่อย่างเดียวดาย เพราะเมื่อไรก็ตามที่พวกเขาได้มีพื้นทีในการจัดแสดงผลงานศิลปะของชาติที่มีคุณค่า เชื่อได้ว่าอุตสาหกรรมการส่งออกทางวัฒนธรรมด้วยการ์ตูนไม่ใช่ความฝันที่เกินจริง.
Leave a Reply